ในการเลิกราของคนสองคนนั้นจะต้องมีคนหนึ่งที่เสียใจมากกว่านั่นเอง ทำให้คนที่ใจมากกว่านั้นไม่สามารถไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนอื่นได้ และเหตุผลที่ทำให้เรานั้นยังมูฟออนไปไหนไม่ได้ก็อาจจะมีเหตุผลหลักๆอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น อาจจะเลิกรากับอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ หรือการถูกนอกใจนั่นเอง ทำให้เรารู้สึกฝังใจและคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่มีค่ากับอีกคนเลยหรืออย่างไร
และทำให้เราพยายามหาคำตอบและมีความคิดในหัวว่าเรานั้นยังดีไม่พอทำให้อีกฝ่ายไปมีคนอื่นและคนใหม่ของเค้านั้นดีกว่าเราตรงไหนบ้าง ดังนั้นเราจึงอยากที่จะแก้ไขหรืออาจจะอยากที่ทำในสิ่งต่างๆหรือทำในสิ่งที่เรายังไม่เคยทำให้คนคนนั้นอยู่นั่นเองทำให้เรายังคงหาข้อแก้ต่างให้กับตัวเองว่าเราสามารถทำในสิ่งต่างๆนั้นได้และนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรายังไม่สามารถมูฟออนได้นั่นเอง มันเป็นการตอกย้ำตัวเองในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้หรืออาจจะไม่เคยทำว่าตัวเองนั้น
สามารถทำได้ทำให้มีการไปพูดคุยกับคนที่เลิกลากันและเมื่อไม่มีการตอบรับจากอีกฝ่ายหรืออาจจะมีการคุยกันแล้วอีกฝ่ายไม่กลับมาก็จะยิ่งทำให้เรานั้นคิดวนเวียนซ้ำๆไปมาอยู่อย่างนี้และจึงเป็นเหตุผลที่ว่าเรานั้นไม่สามารถไปไหนได้สักทีนั่นเอง
การยึดติดกับอดีตที่ไม่มีอีกต่อไปแล้วมากเกินไป ในบางครั้งคนเราก็อาจจะมีการยึดติดกับอดีตอยู่บ้างก้ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องผิดเพราะคนเรานั้นก็ต่างมีสิ่งที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตและสามารถจดจำและนึกถึงในวันใดวันหนึ่งได้ แต่ถ้าหากยึดติดและนึกคิดถึงอดีตที่ผ่านมามากเกินไปแล้วนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นไม่สามารถก้าวไปไหนได้นั่นเอง คือการคิดถึงเรื่อราวเก่าๆระหว่างเรากับเค้าและส่วนใหญ่คนที่ยึดติดกับอดีตนั้นจะคิดถึงในสิ่งดีดีที่เรากับเค้าได้ทำเริ่มกัน
และมีการคิดวนเวียนไปว่าอยากจะทำสิ่งเหล่านั้นกับเค้าอีกครั้งหรือการคิดว่าถ้าหากไม่มีเค้าเราก็ไม่สามารถทำอะไรต่อไปได้แล้วนั่นเอง การยึดติดว่าต้องมีเค้าอยู่ในชีวิตประจำวันเราเป็นต้น การยึดติดนั้นในบางครั้งเป็นการยึดติดในทุกๆสิ่งที่เรากับเค้าเคยทำร่วมกันนั่นเอง และการที่ไม่สามารถมูฟออนได้นั้นยังมีอีกหลายสิ่งที่ทำให้เรานั้นมูฟออนไม่ได้
ดังนั้นถ้าหากเลิกทำสิ่งที่กล่าวไปข้างต้นได้สักหนึ่งข้อก็เป็นแนวทางที่จะทำให้สามารถมูฟออนหรือเดินออกมาจากคนคนหนึ่งได้แล้ว
สนับสนุนเรื่องราวโดย หวยออนไลน์ขั้นต่ำ 1 บาท