นายอำเภอปะทะเดือดกับชาวบ้าน

นายอำเภอปะทะเดือดกับชาวบ้านต้องการห้ามจัดงานเลี้ยงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 

              มีเหตุการณ์ที่เผยแพร่คลิปการปะทะกันระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในอำเภอรวมถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านที่เดินทางไปห้ามลูกบ้านไม่ให้มีการจัดงานขึ้นบ้านใหม่โดยในคลิปจะเห็นว่าทางชาวบ้านเองก็ไม่พอใจที่ทางเจ้าหน้าที่มาห้ามปรามเนื่องจากมีอาการเมาสุรากันอยู่สวนทางเจ้าหน้าที่เองก็ต้องการที่จะห้ามไม่ให้จัดงานเนื่องจากว่าเป็นการชุมนุมที่มีคนมาร่วมงานกันอย่างหนาแน่นและแต่ละคนที่เดินทางมาก็ไม่มีใครที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัย

หรือมีอุปกรณ์ที่จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเลยเนื่องจากทางอำเภอเองก็ต้องมีการทำตามนโยบายของรัฐบาลที่ขอความร่วมมือประชาชนในการห้ามจัดงานเลี้ยงต่างๆเพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

ซึ่งในคลิปจะเห็นว่ามีเหตุการณ์ที่นายอำเภอต้องถึงขนาดยกปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ให้ประชาชนอยู่ในความสงบกันด้วยอาทิตย์นี้ได้มีการเผยแพร่ออกไปก็มีการพูดถึงกันเป็นจำนวนมากทั้งในทางดีและในทางที่ไม่ดีซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้ทราบเรื่องราวดังกล่าวและได้มีการเรียกทั้งสองฝ่ายโดยได้ทั้งทางฝ่ายของหน่วยงานราชการและทางฝ่ายของชาวบ้านออกมาพูดคุยกันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีชาวบ้านจำนวนมากที่ได้ออกมาต่อว่าหน่วยงานราชการที่เข้าไปขัดขวางการจัดงานขึ้นบ้านใหม่เนื่องจากว่าชาวบ้านเองต้องมีการเตรียมงานกันไว้นานแล้วแต่ในส่วนของทางไปอำเภอเองก็เห็นว่าชาวบ้านไม่ได้มีการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนากันเลยจึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายและการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางจึงจำเป็นต้องมีการเข้ามาพูดคุย

เพื่อให้หยุดจัดงานดังกล่าวซึ่งส่งผลให้มีการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นระหว่างทางเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดน่านซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุเป็นบ้านของ นายใจ  ใจมั่น เป็นชาวอำเภอสองแควซึ่งในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ในอำเภอเองก็มีความผิดที่เข้าไปแจ้งการงดการจัดงานกับทางประชาชน

โดยที่ไม่ได้มีการสวมใส่ชุดของข้าราชการให้ดูว่าเป็นการทำงานอย่างเป็นทางการส่วนประชาชนเองก็มีความผิดในโทษฐานที่ไม่ให้ความร่วมมือกับทางรัฐบาลหรือหน่วยงานราชการในการที่จะยับยั้งการแพร่ระบาดการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

                 หากเกิดมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นน่าจะมีคนติดเป็นจำนวนมากเพราะในงานมีคนมาร่วมงานจำนวนเกือบ 100 คนซึ่งแต่ละคนต่างก็พากันเมาสุราและไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลยดังนั้นหากมีใครคนใดคนนึงที่มีเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่ก็สามารถมาแพร่เชื้อให้กับคนอื่นๆได้เนื่องจากว่าทั้งอาหารการกินที่กินร่วมกันรวมถึงการดื่มสุราที่ใช้แก้วเดียวกันก็เป็นวิธีการที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ทั้งหมด