ฮ่องกงบังคับใช้สายรัดข้อมือเพื่อตรวจสอบข้อมูลการกักตัวหากพบไม่กักตัวครบ 14 วันจับติดคุกทันที

            ถือเป็นมาตรการที่ดีมากสำหรับประเทศฮ่องกงที่มีการนำวิวัฒนาการสายรัดข้อมือมาใช้ในการควบคุมประชากรภายในประเทศให้ตัวเองอยู่ในบริเวณบ้านพักไม่ออกไปไหนเป็นระยะเวลา 14 วันซึ่งตัวสายรัดข้อมือนี้จะสามารถตรวจสอบพื้นที่ที่ประชากรคนนั้นอยู่ได้ว่าอยู่ในพื้นที่ใดหรือออกนอกพื้นที่หรือไม่

          เนื่องจากปัจจุบันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ามีผลกระทบต่อหลายประเทศและหนึ่งในนั้นก็คือประเทศฮ่องกงซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นจำนวนมากดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้มีมาตรการออกมาป้องกันการแพร่ระบาดรวมถึงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งหนึ่งใน แนวทางในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Corona ก็คือ การที่ทางรัฐบาลได้แจกสายรัดข้อมือให้กับประชาชนหรือใครก็ตามที่เดินทางมาจากต่างประเทศไม่ว่าประเทศนั้น

จะเป็นประเทศอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ก็ตามจะต้องมีการกักตัวเองให้อยู่ในบ้านครบ 14 วันเสียก่อนจึงจะสามารถออกมาข้างนอกได้ ซึ่งมาตรการนี้ได้มีการทำออกมาเพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19   ซึ่งกำลังสร้างปัญหาให้กับทุกประเทศอยู่ในขณะนี้โดยสายรัดข้อมือดังกล่าวจะถูกแจกจ่ายให้กับประชาชนทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศมาโดยจะมีการแจกตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้วก่อนที่ประชาชนจะเดินทางออกนอกสนามบินจะต้องมีการผูกสายรัดข้อมือมีไว้กับตัวโดยลักษณะของสายรัดดังกล่าวเป็นลักษณะเหมือนกับสายรัดข้อมือในโรงพยาบาล

หรือสายรัดข้อมือริสแบนแต่สายรัดข้อมืออันนี้จะมีคุณสมบัติพิเศษเพราะจะมี QR Code ซึ่งจะถามว่าทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเช็กได้ว่าผู้ที่ใส่สายรัดใช้งานอยู่ตรงพื้นที่ไหนแล้วจะมีการนำไปเปรียบเทียบกับสถานที่ที่ทางนักท่องเที่ยวระบุไว้ว่าจะเข้าไปพักที่นี่หรือไม่โดยมีการสื่อสารและจับสัญญาณการทาง WiFi และ GPS

ซึ่งถ้าหากเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบพบว่าสถานที่ที่นักท่องเที่ยวระบุไว้ตอนอยู่ที่สนามบินว่าจะมีการกักตัวอยู่ที่ไหนแล้วไม่ตรงกับที่อยู่ของปัจจุบันจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปเชิญนักท่องเที่ยวคนนั้นแล้วจับเข้าคุกทันทีเขาถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายซึ่งนอกจากจะถูกจับขังคุกแล้วแต่ยังถูกปรับเงินเป็นจำนวนถึง  หนึ่งแสนห้าพัน บาทอีกด้วย 

       สำหรับการใช้งานเจ้าแบรนด์นี้ใช้งานง่ายๆแค่ใส่สายรัดข้อมือไว้เท่านั้นส่วนที่เหลือทางเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ดำเนินการเพลงทั้งหมดสายรัดข้อมือจะมีการส่งสัญญาณเตือนมายังเจ้าหน้าที่หากผู้ที่สวมใส่สายรัดข้อมือมีการออกนอกพื้นที่หรือพยายามที่จะแกะสายรัดข้อมือออกวิธีการนี้ถือว่าเป็นวิธีการที่ดีในการควบคุมไม่ให้ประชากรออกนอกพื้นที่ก่อนครบกำหนดการกักตัว 14 วัน ซึ่งถือว่าประเทศไทยควรจะนำวิวัฒนาการมาใช้เป็นอย่างยิ่ง 

 

สนับสนุนโดย  entaplay mobile

เมื่อต้องถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน ทำให้คนเราอ้วนกันมากขึ้น 

             คุณเคยสังเกตุน้ำหนักของตัวเองมีว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นจนถึงปัจจุบันนี้น้ำหนักของคุณในปริมาณเหมือนเดิมหรือลดลงหรือมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่แน่นอนว่าตั้งแต่มกราคมต่อเนื่องมาจนถึงเดือนเมษายนนั้นประชาชนส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในบ้านเพราะที่ทำงานมีการสั่งปิดการทำงานชั่วคราวหรือบางสถานที่ก็มีการให้พนักงานนั้นทำงานอยู่ที่บ้านและแน่นอน

เมื่อคุณทำงานอยู่ที่บ้านอยู่ห่างไกลจากสายตาของเจ้านายเราก็มักจะละเลยในเรื่องของการควบคุมดูแลตนเองเราสามารถที่จะเดินไปกินอะไรก็ได้ง่ายๆเพียงแค่ไปเปิดตู้เย็นของกินก็รอเราแต่งตู้ดังนั้นเมื่อมีการสำรวจออกมาจึงพบว่าช่วงประมาณ 4 เดือนที่มีการกักตัวเองอยู่แต่ในบ้านของประชาชนนั้นแต่ละคนนั้นจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นคนนั้นก็สามารถที่จะควบคุมตนเองได้อาจจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย 1-2 กิโลกรัม

แต่บางคนนั้นปล่อยตามใจปากก็จะมีทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 10 กิโลกรัมก็มีแต่ในขณะเดียวกันมีรายงานค่ะจากทางประเทศจีนออกมาว่าทางแพทย์ได้ค้นพบน้ำหนักตัวของคนที่เกิดตัวเองอยู่ในบ้านในท้องมีน้ำหนักสูงถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียวซึ่งจำนวนน้ำหนัก 100 กิโลกรัมนี้เขาใช้เวลาเพียงแค่ 5 เดือนเท่านั้น

ในการเพิ่มน้ำหนักแน่นอนว่าสาเหตุที่เขาเป็นแบบนี้เพราะว่าเขาไม่ออกกำลังกายค่ะที่อยู่บ้านเลยทำได้แค่เพียงตื่นขึ้นมากินแล้วก็นอนเท่านั้นจึงทำให้เขานั้นกลายเป็นโรคอ้วนและส่งผลเสียต่อร่างกายของเขาเพราะโรคอ้วนนั้นจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการเต้นหัวใจที่ผิดปกติการหายใจที่ลำบากขึ้นรวมถึงอาจจะทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันก็เป็นได้ยังไงก็ตามรายงานข่าวในครั้งนี้ถือว่าเป็นข่าวจริงที่ไม่ได้ข่าวปลอมเพราะวันที่ 13 เดือนมิถุนายนปีพศ 2563

สำนักงานข่าวของจีนได้มีการประกาศรายชื่อของคนที่มีความอ้วนเรา 100 กิโลกรัมว่านายโจวคืนเขาเป็นคนเมืองอู่ฮั่นไปเดินทีเขาก็มีน้ำหนักเยอะอยู่แล้วแต่พอเขาต้องถูกกักตัวน้ำหนักของเขาก็ยิ่งเยอะขึ้นไปใหญ่ซึ่งในครั้งแรกนั้นเขาน้ำหนักก็อยู่ที่ประมาณ  100 กิโลอยู่แล้วแต่พอ 5 เดือนผ่านไปหลังจากที่เขาแค่กินกับนอนและไม่ทำอย่างอื่นเลย

ก็ทำให้น้ำหนักตัวของเขาตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 279 กิโลกรัมเข้าไปแล้วซึ่งตอนนี้ในโจนะมีสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมากจนต้องมีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ให้มาพาไปรักษาตัวเนื่องจากว่าเขาไม่สามารถที่จะนอนได้เลยและเขานอนไม่ได้มา 2 วันแล้วนั่นก็เพราะว่าเขาไม่สามารถหายใจได้อย่างปกตินั่นเองซึ่งตอนนี้ทางโรงพยาบาลกำลังมีการดูแล นายโจว และหวังว่าจะสามารถรักษานายโจวให้หายเป็นปกติได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8

ฝันว่ามีคนแก่มาชี้ทาง ตื่นมาทำตามที่ฝันไปเจอของดีเป็นเห็ดยักษ์

       นายอ้าหลีม  ชาวบ้านบ้านพระราชทานเทิดไท้องค์ราชันจังหวัดกระบี่ ได้ค้นพบเห็ดยักษ์  มีขนาดใหญ่ซึ่งไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนโดยค้นพบที่บริเวณดินสวนปาล์มน้ำมันในขณะที่เขานั้นกำลังดูวัวของเขาออกไปกินหญ้า จำเรื่องราวที่เขาพบเห็ดยักษ์นั้นแพร่กระจายเป็นข่าวใหญ่โตทางด้านนักข่าวจึงได้ลงไปในพื้นที่เดินทางไปที่บ้านของนาย อ้าหลีม เพื่อไปขอดูเห็ดยักษ์ 

ซึ่งเห็ดที่นักข่าวไปเห็นนั้นมีขนาดที่ใหญ่มากจากการที่นักข่าวได้ไปทำการลองวัดขนาดดูพบว่าเห็ดที่เก็บมาได้นั้นมีขนาดใหญ่มากโดยเปรียบเทียบกับเห็ด 1 ดอกเท่ากับเห็ดธรรมดาทั่วไปถึง 10 ดอกด้วยกันเลยทีเดียวซึ่งเห็ดที่ นายอ้าหลีม เก็บมาได้นั้นมีจำนวนหลายดอกมากแต่ละดอกก็มีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันออกไป

โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดความกว้างอยู่ที่ประมาณ 20 cm ถึง 23 cm และยังมีความสูงเกือบประมาณ 1 ฟุตเลยทีเดียว ชาวบ้านในพื้นที่พากันตื่นเต้นยินดีกันเป็นอย่างมากมีการพูดถึงเรื่องการเจอเห็ดยักษ์นี้กันไปต่างๆนานาแต่ส่วนใหญ่แล้วทุกคนก็คิดว่าเห็ดยักษ์นี้เป็นเห็ดโชคลาภซึ่งทางนายอ้าหลีม

ได้ออกมาบอกถึงสาเหตุของการที่พบเหตุในครั้งนี้ว่าตนเองนั้นนำวัวไปกินหญ้าตามปกติแต่คืนก่อนที่จะเจอเห็ดนั้นตนเองฝันว่ามีชายชราคนหนึ่งเดินมาหาพร้อมกับบอกให้ตนเองนั้นเดินไปทางทิศใต้ของบ้านโดยบอกว่าทิศนั้นถ้าตนเองเดินไปแล้วจะเจอกับของดีซึ่งหลังจากที่นายอ้าหลีมตื่นมาจากความฝันนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร

เพราะคิดว่าเป็นความฝันปกติทั่วไปแต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตื่นนอนมาแล้วนายอ้าหลีมก็ได้มีการจูงวัวออกไปกินหญ้าตามปกติซึ่งได้เดินไปทางทิศที่ชายในฝันบอกพอดีและเดินออกไปเพียงแค่ประมาณ 200 เมตรเท่านั้น นายอ้าหลีมก็มองเห็นว่ามีเห็ดขนาดใหญ่มากโทรออกมาจากบริเวณโพรงใต้ดิน

ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นกำลังเป็นที่ปรับหน้าดินเพื่อที่จะทำการก่อสร้างรีสอร์ทซึ่งจุดดังกล่าวนั้นเป็นจุดที่ห่างจากน้ำพุร้อนเค็มเพียงแค่ประมาณ 500 เมตรเท่านั้น

เมื่อเห็นว่ามีเห็ดขนาดใหญ่มากขนาดนี้มันเองก็ตื่นเต้นดีใจและได้เก็บเห็ดอันเก่ากลับมาที่บ้าน  นายอ้าหลีมยังกล่าวกับนักข่าวอีกด้วยว่าตั้งแต่เล็กจนโตจนถึงตอนนี้ก็อายุมา 65 ปีแล้วทั้งชีวิตเขาไม่เคยที่จะพบเห็ดอะไรที่จะมีขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนเลย

ซึ่งเขาเปรียบเทียบขนาดของเด็กกับหัวเห็ดว่าเห็ดยังมีขนาดใหญ่มากกว่าหัวเด็กด้วยซ้ำไปชาวบ้านเชื่อกันว่าการที่มีเห็ดขนาดใหญ่มากขึ้นในบริเวณหมู่บ้านนี้จะทำให้มีแต่โชคลาภเข้ามาอย่างไรก็ตามตอนนี้มีหลายคนออกมาพูดถึงเห็ดชนิดนี้ว่าเป็นเห็ดตีนแรดแต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญดูอีกทีนึง

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ดีที่สุด 2020

มนุษย์ป้าอุ้มหมาเข้าเซเว่น

มนุษย์ป้าอุ้มหมาเข้าเซเว่นพนักงานห้ามแล้วแต่กลับไม่พอใจขู่จะไล่ออกให้ตกงาน 

         มนุษย์ป้าอุ้มสุนัขสุดรักเข้าร้านเซเว่นถูกพนักงานร้านเซเว่นตักเตือนไม่เอาสุนัขเข้าแต่มนุษย์ป้าไม่พอใจด่ากับพนักงานพร้อมบอกน้องรู้จักพี่คนนี้น้อยไปที่สำคัญเธอยังยืนยันกุ้งหมาเข้าร้านเซเว่นโดยบอกว่าทำแบบนี้มาเป็น 10 ปีแล้วไม่เคยมีใครว่าอะไรเมื่อคลิปนี้หลุดออกไปป้าก็โดนชาวโซเชียลวิจารณ์ยับ

        กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกออนไลน์เป็นอย่างมากเมื่อมีคลิปถูกโพสต์ลงใน Facebook เกี่ยวกับเรื่องของมนุษย์ป้านีเข้าไปโวยวายพนักงานร้านเซเว่นจากกรณีที่พนักงานทำตามกฎไม่อนุญาตให้นำสุนัขเข้ามาในร้านโดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2563

ในคลิปจะเห็นว่าเป็นบรรยากาศของร้านเซเว่นแห่งหนึ่งซึ่งผู้โพสต์ไม่ได้ระบุว่าเป็นสาขาไหนแต่จะเห็นว่าภายในคลิปนั้นมีการแอบถ่ายหญิงคนหนึ่งซึ่งนุ่งกระโปรงยีนส์ใส่เสื้อสีเหลืองกำลังอุ้มสุนัขและกำลังต่อว่าพนักงานร้านเซเว่นโดยเธอบอกว่าเธอเคยเอาสุนัขเข้ามาในร้านนี้ทุกครั้งที่มาซื้อของไม่เคยมีใครว่าเธอมาก่อน

และเธอยืนยันว่าเธอจะเอาสุนัขเข้าร้านเซเว่นให้ได้และเธอไม่พอใจพนักงานที่มาพูดกับเธอแบบนี้เธอบอกว่าเธอไม่อยากมีเรื่องกับใครแต่ถ้าเกิดว่าใครอยากจะมีเรื่องกับเธอเธอจะเล่นงานให้ถึงที่สุดจะเอาให้โดนออกจากงานให้ได้โดยในคลิปเธอยังมีการระบุอีกด้วยว่าพนักงานพูดจาไม่ดีกับเธออีกทั้งยังมีการขึ้นเสียงใส่เธอ

เพราะฉะนั้นหากว่าเธอร้องเรียนไปที่บริษัท 7-eleven พนักงานคนนี้จะต้องโดนไล่ออกแน่ๆซึ่งเธอยืนยันอีกว่าเธอเข้าเซเว่นมาเป็นสิบๆปีแล้วไม่เคยมีพนักงานคนไหนห้ามให้เธอเอาสุนัขเข้ามาในเซเว่นมาก่อนและเมื่อเธอด่าพนักงานเซเว่นจบเรียบร้อยแล้วพรุ่งนี้ทักเข้ามาเดินเลือกซื้อของในเซเว่นอย่างสบายใจ

หลังจากคลิปนี้มีการถูกเผยแพร่ออกไปชาวโซเชียลก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำและพฤติกรรมของมนุษย์ป้าคนนี้โดยเธอไม่เคยสนใจกฎระเบียบของสังคมอีกทั้งยังอวดอ้างว่าจะไล่พนักงานออกทำให้หลายคนรับไม่ได้กับพฤติกรรมของเธอและพากันต่อว่ากับสิ่งที่เธอได้กระทำ

ซึ่งในคลิปจะมีการถ่ายเห็นหน้าเธอเป็นบางครั้งด้วยทำให้คิดว่าต่อจากนี้ไปเธอคงอาจจะไม่กล้าสู้หน้าเซเว่นร้านนี้อีกเลยก็ได้หลังจากที่เรื่องราวของเธอเป็นข่าวดังใหญ่โตเป็นนักข่าวได้ไปสัมภาษณ์เจ้าของ Facebook ที่มีการนำคลิปมาเผยแพร่ซึ่งเธอก็เล่าเหตุการณ์เหมือนที่ระบุในคลิปวีดีโอ

อีกทั้งเธอยังรอบเพิ่มเติมอีกด้วยว่าป้าคนนั้นไม่ใช่เพียงแค่จะดุด่าพนักงานเซเว่นเท่านั้นแต่มนุษย์ป้าคนนั้นยังหันมาที่เธอแล้วใช้ให้เธอยกน้ำไปไว้ที่รถของเขาด้วยจำนวน 5 แพ็คเมื่อเธอบอกมนุษย์ป้าคนนั้นว่าเธอไม่ใช่พนักงานเซเว่นแต่มนุษย์ป้าคนนั้นกลับกันมาทางเธอแล้วด่าเธอว่าไม่มีมารยาท

สำหรับสิ่งที่เธอต้องถ่ายคลิปวีดีโอครั้งนี้ไว้เพราะว่าเธอรู้สึกสงสารพนักงานเนื่องจากพนักงานหญิงคนนั้นถูกมนุษย์ป้าด่าจนร้องไห้ทำอะไรไม่ถูกและเธอเห็นว่าสิ่งที่มนุษย์ป้าคนนั้นทำเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ติดต่อ bk8

มาอีกแล้วปัญหาเพื่อนบ้านทะเลาะกันเพราะการจอดรถเหลื่อมล้ำขวางหน้าบ้าน 

           เจ้าหน้าที่ตำรวจสน. ท่าข้ามได้รับแจ้งเหตุมีคนทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งจึงได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบซึ่งเมื่อไปถึงทางคู่กรณีทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันไปเรียบร้อยแล้วแต่ทางฝั่งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและมีการแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเอาไว้

เพื่อต้องการให้ดำเนินคดีกับอีกฝ่ายหนึ่งให้ถึงที่สุดซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่าบ้านของผู้บาดเจ็บและผู้ที่ลงมือทำร้ายนั้นอยู่บ้านติดกันซึ่งโดยปกติแล้วบ้านทั้งสองหลังก็คุยกันด้วยดีมาโดยตลอดจนมีวันนี้ที่เกิดเหตุนั้นเนื่องจากว่าครอบครัวของบ้านผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั้นก็คือนางสุนีย์

ได้มีญาติๆมาเยี่ยมจึงมีการจอดรถเกินไปบริเวณหน้าบ้านของอีกฝั่งหนึ่งประมาณ 10 เซนติเมตรซึ่ง คู่กรณีนั้นเป็นคนจีนเมื่อเดินทางมาถึงก็ได้ให้รปภมาเรียกบ้านของคุณสุนีย์ว่าให้มีการขยับรถเพราะมีการจอดรถขวางหน้าบ้านของเขาซึ่งครอบครัวทางของคุณสุนีย์เองก็ออกมาขยับรถให้แต่เกิดมีการปะทะกันเกิดขึ้น

เมื่อชายชาวจีนถามว่ามีอะไรซึ่งทางคุณชะนีเองก็ตอบกลับไปว่ามีอะไรหลังจากนั้นเมื่อชาวจีนจอดรถได้ก็ลงมาทำร้ายคุณสุนีย์ทันทีเป็นเหตุให้ญาติทั้งสองฝั่งต่างก็ตกลงโดนทำร้ายซึ่งกันและกันซึ่งครอบครัวของคุณสุนีย์นั้นได้รับบาดเจ็บมากที่สุดโดยสามีของคุณสุนีย์นั้นไหลโหลด

ส่วนคนนั้นก็เบ้าตาเขียวช้ำและลูกๆก็ได้รับบาดเจ็บบ้างเล็กน้อย  และที่สำคัญชายชาวจีนได้นำถังขยะมาทุบกระจกรถของทางบ้านคุณสุนีย์ให้ได้รับความเสียหาย  ซึ่งชาวจีนยังได้พูดเป็นภาษาจีนทำนองข่มขู่ว่ารู้จักกับตำรวจไทยและถ้ายังไม่เลิกราใช้ชาวจีนขู่จะฆ่ายกครอบครัวโดยข้อความนี้ลูกสาวคนเล็กของคุณสุนีย์

ซึ่งเรียนภาษาจีนมาสามารถไปออกได้จึงทำให้ครอบครัวของคุณสุนีย์เกิดความกลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับครอบครัวของตนเองโดยเฉพาะลูกสาวคนกลางซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเนื่องจากว่าโดยปกติแล้วบ้านหลังนี้จะมีลูกสาวคนกลางอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นเบื้องต้นทางครอบครัวคนจีนได้มีการติดต่อ

เพื่อทำการขอชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลให้แล้วแต่ทางด้านครอบครัวของคุณสุนีย์นั้นไม่ยอมยอมต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุดดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ประสานงานให้ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยปรับความเข้าใจกันรวมถึงกรณีที่ชาวจีนมีการแอบอ้างเรื่องของการรู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ที่สนท่าข้ามและทางคุณสุนีย์เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายเพราะทุกคนก็สามารถอ้างว่ารู้จักกับตำรวจด้วยกันทั้งนั้นแต่จริงๆแล้วอาจจะไม่ได้มีการรู้จักสนิทสนมกันเลยก็ได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8 pc

ขึ้นโรงพักแจ้งความเท็จว่าถูกโจรปล้น

เล่นการพนันจนหมดตัวกลัวสามีว่าขึ้นโรงพักแจ้งความเท็จว่าถูกโจรปล้น

        เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อหญิงสาวคนนึงอายุ 29 ปีได้เดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจโดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามจับกุมคนร้ายเป็นผู้ชายอ้วนคนนึงและผู้ชายผอมคนหนึ่งเธอกล่าวว่าทั้งสองคนนั้นได้มีการปล้นเอาเงินจำนวน 53,000 บาทของเธอไปซึ่งมันดังกล่าวนั้นเป็นงานที่สามีของเธอให้เธอไปกดมาจากตู้ ATM โดยหลังจากที่เธอออกมากดเงินที่ตู้ atm พร้อมกับลูกชายวัย 6 ขวบของเธอแล้ว

ขณะที่มีการขี่รถมอเตอร์ไซค์กำลังจะกลับบ้านนั้นก็มีผู้ชาย 2 คนขับรถมาประกบคู่พร้อมกับที่มาที่ล้อรถมอเตอร์ไซค์ของเธอซึ่งเธอก็ได้จอดรถเนื่องจากว่าคิดว่ามีอะไรติดอยู่ที่ล้อรถและเมื่อเธอจอดรถชายทั้งสองคนก็พากันที่เธอและนำเงินที่อยู่ในกระเป๋าของเธอไปทำให้เธอต้องมาแจ้งความที่สถานีตำรวจในครั้งนี้

ในการติดตามตัวคนร้ายเพื่อเอาเงินมาคืนซึ่งหลังจากที่เธอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรู้สึกสงสัยในคำให้การของเธอจึงได้มีการสอบถามสักไปสักมาหลายรอบจนในที่สุดเธอก็สารภาพว่าเหตุการณ์ที่มีชาย 2 คนที่เธอไปนั้นไม่เป็นความจริงแต่ว่าเงิน 5 หมื่นกว่าบาทที่หายไปนั้น

เธอนำไปเล่นการพนันออนไลน์จะหมดซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินของสามีเธอจึงเกรงว่าสามีจะต่อว่าที่ไม่มีเงินไปคืนให้กับสามีทำให้เธอต้องหาอุบายมาแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อที่จะได้นำใบแจ้งความไปให้ทางสามีเห็นว่าเงินที่หายไปนั้นเกิดจากการถูกปล้นซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งเข้าหาเธอในข้อหาแจ้งความเท็จ

         เหตุการณ์ในการเหตุเกิดขึ้นเพราะหญิงสาวนำเงินไปเล่นการพนันแล้วเกรงว่าสามีจะต่อว่าจึงได้ไปแจ้งความเท็จกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผลให้แทนที่จะโดนสามีด่าอย่างเดียวกลับต้องโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเข้าห้องขัง ที่นี่นอกจากสามีจะด่าเรื่องของการนำเงินไปเล่นการพนันแล้วยังจะต้องด่าเรื่องต้องหาเงินมาประกันมีออกจากคุกอีก

ด้วยซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ได้ไม่คุ้มเสียเลยจริงๆดังนั้นก่อนใครที่จะมีการนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ควรจะมีการคิดให้รอบคอบว่าควรจะเล่นมากน้อยแค่ไหนถึงจะพอเหมาะเพื่อไม่ให้ตนเองและครอบครัวต้องเดือดร้อน

สำหรับการเล่นการพนันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีและไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่งซึ่งทุกคนต่างก็รู้ดีแต่เนื่องจากตอนนี้ช่องทางการหาเงินค่อนข้างมีน้อยงานการไม่ค่อยจะมีให้ทำสักเท่าไหร่นัดหลายคนจึงเลือกที่จะรวยทางลัดด้วยการเล่นการพนันหรือการซื้อหวยออนไลน์ซึ่งหากจะมีการเล่นจริงๆก็ต้องมีการควบคุมตนเอง

ไม่ให้เล่นมากจนเกินไปจนนำเงินที่มีอยู่ทั้งหมดไปเสียให้กับบ่อนการพนันแทนที่จะได้เงินกับนำพาเดือดร้อนมาให้ตนเองและครอบครัวได้

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์

จัดพริตตี้เต้นยั่วลูกค้าไม่สน พรก. ฉุกเฉิน

ร้านบิ๊กไบค์ในจังหวัดฉะเชิงเทราจัดพริตตี้เต้นยั่วลูกค้าไม่สน พรก. ฉุกเฉิน

        มีรายงานข่าวเข้ามาว่าที่จังหวัดฉะเชิงเทรามีร้านขายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันหนึ่งได้มีการออกมาเรียกลูกค้าเข้าร้านด้วยการจ้างพริตตี้สาวสวยให้มานุ่งน้อยห่มน้อยโดยมีการแต่งกายโป๊ใส่แค่เพียงทั้งบนทั้งล่างแค่เพียง 2 ชิ้นเท่านั้นมาเต้นยั่วเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้านโดยเป็นการลักษณะเต้นพร้อมกับล้างรถไปด้วย

โดยมีคนถ่ายภาพแล้วนำมาแชร์ต่อกันซึ่งหลายคนบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ร้านขายรถบิ๊กไบค์แห่งหนึ่งโดยมีการเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณวันที่ 3 เดือนพฤษภาคมพศ2563 แล้ว

ซึ่งหลังจากที่รัฐบาลได้มีการปลดล็อคให้ร้านค้าเริ่มออกมาขายของกันได้ตามปกติร้านขายรถบิ๊กไบค์ก็มีการจัดกิจกรรมพิเศษนี้ที่หน้าร้านเดี๋ยวจะมีคนคอยประกาศเรียกลูกค้าให้มาเข้ามาในร้านพร้อมทั้งทุกคนที่มาอยู่ภายในร้านต่างก็ไม่ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยและไม่มีใครเว้นระยะห่างกันจะมีคนเก็บภาพนี้แล้ว

นำไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพราะว่าเกรงกันว่าจะทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่าได้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุก็ได้ลงในการมาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวแล้วแต่ไม่ได้มีรายงานข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอย่างไรเกี่ยวกับเจ้าของร้านในครั้งนี้

        ร้านค้าบางร้านเมื่อได้รับการปลดล็อคให้เอามาขายของได้ก็ทำพฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการที่จะมีการระบาดของไวรัสโคโรน่ากลับมาอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้องเพราะที่จริงแล้วการที่รัฐบาลออกมาอนุมัติให้ร้านค้าได้สามารถเปิดขายของได้นั้นถือว่าเป็นการช่วยเหลือประชากรในประเทศไว้ให้อดอยาก

โดยต้องการให้กลับมามีงานทำให้เร็วที่สุดแต่ถ้าหากว่าเมื่อมีการปลดล็อคให้ประชาชนสามารถทำกิจการได้ตามปกติแล้วยังมีการทำผิดไม่ดูแลตนเองเมื่อสงสัยหน้ากากอนามัยก็อาจจะทำให้เชื้อโรคกลับมาและทำให้มีผู้ติดเชื้อมากขึ้นกว่าเดิมได้ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงสะพานก็อาจจะมีการต้องกลับมาทบทวน

เกี่ยวกับเรื่องของการปลดล็อคมาอีกครั้งหนึ่งซึ่งถ้าหากปลดล็อคแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นรัฐบาลอาจจะต้องมีการประกาศน็อคดาวน์ใหม่อีกรอบซึ่งถ้าครั้งนี้เป็นอีกประเทศไทยก็จะแย่หนักยิ่งกว่าเดิมเพราะตอนนี้เศรษฐกิจในประเทศต่างก็ได้รับผลกระทบกันอย่างมากแล้วดังนั้นเราควรจึงจำเป็นต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกันที่จะควบคุมไม่ให้ไวรัสโคโรน่ามีการระบาดใหม่ซ้ำได้อีกครั้งหนึ่งเพื่อที่ประเทศไทยจะได้เดินหน้าต่อไปได้ประชาชนจะได้กลับมาทำงานได้ตามปกติสักที

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  rb88 ล็อกอิน

เพชรพญานาคของจริงหรือว่าแหกตา ยายตุ๊

เรื่องกรณียายตุ๊ ยายตุ๊นี้หากยังจำกันได้ตัวของคุณยายตุ๊ก็คือคนที่ได้ออกมาเปิดเผยและคุณยายก็ยังบอกอีกว่าแสงที่ชาวบ้านเห็นมันไม่ใช่แสงของกระสือมันมาจากเพชรพญานาคจนในที่สุดยายก็ได้ออกมาบอกว่าหินของยายตุ๊นั้นมันมีเพชรพญานาคอยู่ข้างใน

ซึ่งก็ทางคุณยายตุ๊ก็ได้ทุบหินให้ดูว่าเพชรนั้นมันได้ออกมาจากหินจริงหรือไม่ซึ่งวันนี้พอเราได้ออกไปขอติดตามยายตุ๊ซึ่งวันนั้นมันเป็นวันพระใหญ่จากนั้นคุณยายก็ได้บอกว่าพญานาคนั้นโกรธยาย คุณยายตุ๊แก่เลยทำพิธีบวงสรวงวันนี้อีกด้วย และวันนี้คุณยายตุ๊ได้ไปบวงสรวงขอขมาพญานาคและยายก็ได้บอกอีกว่ามันมีอยู่จริงๆ

จะให้อธิบายยังไงวันนั้นที่คุณยายตุ๊ได้ทุบให้เราดูจากนั้นมันก็ได้มีเพชรกระเด็นออกมายายยังได้บอกอีกว่าคนที่เข้ามาดูมีบุญยายก็เลยทุบให้ดูได้หลังจากนั้นที่ได้มีข่าวออกมาด้านคุณยายก็เลิกทุบจากนั้นคุณยายตุ๊ก็ได้ส่งให้ป้านกเป็นคนทุบต่อผลปรากฏว่าตอนที่ป้านกนั้นทุบหินจากนั้น

ป้านกก็ได้เอาให้ดูว่ามันมีเพชรพญานาคจริงๆจากนั้นป้านกเองก็ยังบอกอีกว่าวันนี้มันเป็นบุญของป้านกบ้างที่ป้านกจะต้องทุบให้ทุกคนดู และล่าสุดย้อนกลับไปที่ยายตุ๊ ซึ่งวันนี้คุณยายตุ๊นั้นได้ทำพิธีบูชาพญานาคโดยายตุ๊นั้นก็ยังได้เชื่ออีกว่ากลางคืนเพชรพญานาคของยายตุ๊นั้นมันจะแสดงอิฐฤทธิ์โดยวันนี้ทางฝั่งของยายตุ๊

ถ้ายังจำกันได้เพชรที่มีสีต่างๆยายตุ๊บอกว่าทุกอย่างนี้มันมีความหมายหมดเลยถึงได้เอาเพชรของยายตุ๊ให้ดูซึ่งมันได้ออกมาจากหินจริงๆและยายตุ๊ก็ยังได้บอกอีกว่าเพชรสีทั้งหมดที่มันได้เกิดขึ้นมันได้มีความหมายโดยส่วนใหญ่แล้วมันก็จะเป็นในเรื่องของโชคลาภอย่างสีเหลือง สีส้มคุ้มครองภัย สีขาวนั้น

มีความใสสะอาดเหมือนพุทธคุณ สีม่วงดึงดูดทรัพย์ และก็ สีเขียว ปราศจากภัยอันตราย นอกจากนี้ยายตุ๊ได้ทำพิธียายตุ๊ยังได้เล่าเรื่องอิฐฤทธิ์ของเพชรพญานาค

ซึ่งเราก็จะได้รู้กันว่ามันจะมีพญานาคขึ้นมาจากบ่อหรือไม่ยายตุ๊ยังบอกอีกว่าเพชรที่ยายตุ๊ได้มานั้นรวมไปถึงของป้านกเวลาทุบหินออกมาเสร็จแล้วเวลาที่ยายตุ๊นั้นได้เก็บเอาไว้ใส่ขวดโหลเอาไว้ปรากฏว่าในทุกวันพระด้านเพชรพญานาคนั้นจะแสดงอิฐฤทธิ์โดยการเป่งประกายแสงสีต่างๆลอยขึ้นมาจากขวดโหล

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  rb88

สองโจรรุมทำคนแก่หวังเอาเงิน 5000 บาท

               ขณะนี้กำลังมีคลิปที่กำลังแชร์กันผ่านทางโลกออนไลน์จากเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ ในคลิปจะเห็นว่ามีชายเสื้อดำเดินผ่านชายชราซึ่งน่าจะเป็นคนเร่ร่อนที่นอนอยู่ตรงริมถนนซึ่งหลังจากที่เขาเดินผ่านอยู่ๆเขาก็ทำร้ายคนชราดังกล่าวโดยบริเวณดังกล่าวนั้นมีชายเสื้อสีฟ้าเดินผ่านมาด้วยลักษณะคล้ายเหมือนจะเข้าไปห้ามชายชุดดำแต่พอผ่านไปไม่ถึง 2 วินาทีในคลิปวีดีโอจะเห็นว่าชายเสื้อฟ้าได้มีการไปกระตุกกระเป๋าของชายชราและยังทำร้ายชายชราหลังจากนั้นชายชุดดำและชายเสื้อฟ้าก็พากันหลบหนีไป

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางนักข่าวได้มีการลงพื้นที่และได้เจอกับชายชราที่ถูกทำร้ายดังกล่าวทราบว่าชื่อว่านายปรีชาอายุ 71 ปีโดยนักข่าวไปพบเขาอยู่ตรงถนนนครสวรรค์ 93 เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายซึ่งสภาพของชายชรานั้นมีร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างชัดเจนใบหน้าปูดบวมและเขียวช้ำที่แขนก็ยังมีการติดพลาสเตอร์ยาโดยนายปรีชาได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าเมื่อช่วงกลางคืนประมาณ 22:00 นของวันที่ 19 เดือนเมษายนขณะที่ตนเองนั่งอยู่ริมถนนก็มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ขับผ่านมา

หลังจากนั้นก็จอดรถและลงมาทำร้ายซึ่งหนึ่งในคนร้ายได้มีการกระชากกระเป๋าเงินของตนเองไปด้วยโดยตาปรีชาบอกว่าไม่สามารถสู้แรงคนร้ายได้เนื่องจากคนร้ายมีแรงเยอะและตรงที่มีการโดนรุมทำร้ายก็ไม่มีใครผ่านมาเห็นเนื่องจากช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเคอร์ฟิวแล้วปรีชายังบอกอีกว่ากระเป๋าที่ทำคนร้ายกระชากไปนั้นมีเงินอยู่ในกระเป๋าประมาณ 5,000 บาท

และมีสมุดบัญชีและบัตรประชาชนของตนเองอยู่ในนั้นด้วยซึ่งขณะที่ให้สัมภาษณ์ตาปรีชาก็ร้องไห้ไปด้วยและยังฝากบอกไปถึงโจรด้วยว่าอยากได้เงินคืนเนื่องจากว่าตนเองก็ไม่มีเงินมากนักเพราะเป็นคนจนเช่นเดียวกันต่างๆที่เรื่องราวนี้มีการแชร์ในโลกออนไลน์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนางเลิ้งก็ได้มีการติดตามหาตัวคนร้ายและเมื่อเช็คไปทางญาติของชายชราก็พบว่าชายคนดังกล่าวไม่ใช่คนเร่ร่อนเพียงแต่ว่าชอบมาเดินเล่นอยู่ริมถนนซึ่งเขามีบ้านอยู่แถวๆบริเวณที่เกิดเหตุ

โดยชายคนดังกล่าวจะมีลูกสาวส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนแต่เนื่องจากว่าอายุมากแล้วจึงมักจะหลงๆลืมๆหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามท้องถนนก็พบตัวคนร้าย 2 คนเรียบร้อยแล้วซึ่งให้การรับสารภาพว่าช่วงนี้มีปัญหาเรื่องของเงินไม่พอใช้และต้องการนำรถไปซ่อมจึงได้ก่อเหตุ ป้ากระชากกระเป๋าสตางค์ของชายชราคนดังกล่าว

 

สนับสนุนเรื่องราวมาจาก  entaplay ดี ไหม

ผูกคอตายประชดพิษโควิด-19    

 

       ถ้าพูดถึงปัญหาด้านการเงินตอนนี้สามารถบอกได้เลยว่าทุกครอบครัวมีปัญหาเหมือนกันหมดทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำหรือแม้แต่คนที่ประกอบอาชีพเป็นเจ้าของกิจการเองหรือเป็นพนักงานบริษัทก็ตามแต่ต่างก็ได้รับผลกระทบกันทั้งสิ้นและกลุ่มคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือพวกหาเช้ากินค่ำซึ่งมีหลายคนที่เมื่อได้รับผลกระทบแล้วรู้สึกท้อแท้ในชีวิตและสิ้นหวังหมดกำลังใจจนพวกเขาเหล่านั้นฆ่าตัวตายซึ่งมีหลายชีวิตที่ฆ่าตัวตายเพราะเหตุการณ์เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าหนึ่งในนั้นคือคุณป้าท่านหนึ่งที่จังหวัดกำแพงเพชรคุณป้ามีอายุ 57 ปี

ซึ่งคุณป้าอยู่กับคุณแม่ และหลานๆรวมเป็น 4คนโดยทั้งคู่มีอาชีพขูดมะพร้าวขายแต่หลังจากที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสรายได้ที่เคยมีวันละ 400 บาทถึง 500 บาทก็หดหายลงซึ่งบางวันก็ไม่มีรายได้เข้ามาเลยคุณป้าวัย 57 ปีเคยส่งลงทะเบียนขอเงินเยียวยา 5 พันบาทแต่ก็ถูกปฏิเสธจึงไม่มีเงิน 5,000 บาทนั้นมาใช้ในครัวเรือนทำให้คุณป้ารู้สึกท้อแท้สิ้นหวังเคยไปปรับทุกข์กับญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน

ซึ่งหลังจากที่ประสบปัญหาอย่างหนักและไม่สามารถหาทางออกได้คุณป้าวัย 57 ปีจึงได้ทำการผูกคอตาย ซึ่งคุณป้าได้ผูกคอตายหน้าบ้านของตนเองนั่นเอง แล้วจากที่คุณป้าเสียชีวิตไปแล้วแม่วัย 78 ปีก็ไม่มีเงินที่จะทำศพซึ่งหลังจากข่าวนี้ได้มีการแชร์ออกไปต่างก็มีคนเห็นใจในตัวของคุณแม่วัย 78 ปีกันเป็นอย่างมากเพราะต่อไปนี้แม่จะต้องมีการใช้ชีวิตอยู่โดยที่ไม่มีลูกสาวคอยช่วยเหลืออีกทั้งตัวคุณแม่เองก็เป็นผู้สูงอายุและยังต้องดูแลหลานอีก 2 คนดังนั้นชาวโซเชียลจึงได้รู้สึกเห็นใจจึงพากันรวบรวมเงินส่งมาช่วยเหลือแม่ของผู้เสียชีวิต

โดยหลังจากนี้ทางแม่ของผู้เสียชีวิตได้นำเงินช่วยเหลือบางส่วนมาจากงานศพให้ลูกสาวตนเองและบางส่วนก็จะเก็บเป็นคนเอาไว้ใช้จ่ายซึ่งแม่ของผู้เสียชีวิตได้มีการกล่าวฝากกับนักข่าวถึงผู้ที่มีจิตใจดีนำเงินมาบริจาคช่วยเหลือในครั้งนี้ว่าถ้าหากไม่มีผู้ที่นำเงินมาช่วยเหลือตัวแม่เองก็ไม่รู้ว่าจะจัดงานศพของลูกยังไงก็ไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อข้าวกินอยู่แล้วตอนนี้

       ในสถานการณ์ตอนนี้ทุกคนต่างท้อแท้สิ้นหวังไร้คนป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและหลายคนไม่อยากมีชีวิตอยู่เพราะถึงแม้ไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาก็อาจจะต้องอดตายซึ่งตอนนี้ผู้คนส่วนใหญ่เริ่มไม่กลัวการติดเชื้อกันแล้วแต่กลัวกับการที่จะไม่มีเงินซื้อข้าวกินแล้วต้องอดตายกันมากกว่าถึงแม้ว่าปัจจุบันทางรัฐบาลจะมีการออกนโยบายมาช่วยเหลือประชาชนแต่ก็เป็นนโยบายที่ออกมาแล้วไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่อดอยากปากแห้งได้อย่างจริงจังจึงทำให้หลายคนต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะสิ้นหวังและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้แล้ว

 

ได้รับการสนับสนุนมาจาก  bk8 casino